ผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่พบความรักและแต่งงานกับชาวอเมริกันกล่าวว่าการรอคอยวีซ่าในประเทศไทยเพื่อที่จะได้ไปอยู่ในอเมริกานั้นคือส่วนที่ยากที่สุด
คัทรียา (เคท) ทำงานในบริษัทเครื่องสำอางค์ในกรุงเทพฯหกปีที่แล้ว มีพี่ชายอยู่ที่สมุทรปราการและแม่อยู่ที่หนองคาย ตอนนี้เธออยู่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส
ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกันและมีลูกชายหนึ่งคน 'ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับดิฉันคือการรอวีซ่าเพื่อไปอเมริกา มันใช้เวลาถึงแปดเดือนและฉันคิดว่าบางอย่างเกิดขึ้นและเขาคงจะเปลี่ยนใจไปแล้ว'
เธอบอกเกี่ยวกับสามีของเธอ คุณทอมที่แต่งงานกับเธอเมื่อครั้งแรกที่เดินทางไปประเทศไทยสำหรับการพักผ่อนหนึ่งเดือนของเขาในปี 2007
นักบัญชีในกรุงเทพที่มีมุมมองไม่กว้างนัก
'เมื่อทอมมาเมืองไทย ดิฉันทำงานเป็นนักบัญชีที่บริษัทเครื่องสำอางค์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ฉันเคยไปอเมริการมาแล้วเมื่อปี 2003 และเคยไปเกาหลีมาด้วย'
เธอบอก คัทรียามีปริญญาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในประเทศไทยแต่ได้ตัดสินใจว่าเธอต้องการจะเริ่มชีวิตใหม่นอกประเทศไทยเพราะมุมมองของเธอแคบ 'ฉันอ่าน
เรื่องจากนิตยสารและได้ยินจากเพื่อนๆ ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ฉันสามารถลองทำได้แต่มันกลายเนเรื่องที่จริงจังมากเมื่อฉันได้พบทอมในโรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อเขามากรุงเทพฯ
เพื่อพบกับฉัน'
การแต่งงานอย่างรวดเร็วในวัดแห่งหนึ่ง
'เมื่อตอนที่ฉันได้เห็นเขาในกรุงเทพฯ ฉันคิดว่าทำไมผู้ชายหล่อๆและยังหนุ่มถึงยังไม่มีภรรยา ฉันพาเขามาพบกับเพื่อนของฉันที่บริษัทเพื่อสอบถาม
เขาบางอย่าง เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 10 วันในช่วงที่เขามาเมืองไทยและเขาซื้อแหวนและสร้อยข้อมือให้ฉัน เขากลับมาอีกครั้งในเดือนตุลาคมหลังจากนั้นแต่ตอนแรกเราแต่งงานกันในวัดใกล้ๆบ้านของฉัน
ในหนองคาย มันเกิดขึ้นเร็วมาก!'
การได้พบกับสามีชาวต่างชาติทางอินเตอร์เน็ต
คัทรียาคิดว่าสิ่งสำคัญในการที่จะได้พบกับสามีชาวต่างชาติทางอินเตอร์เน็ตนั้นก็คือต้องสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ 'ภาษาอังกฤษของดิฉันดีสำหรับคนไทยคนหนึ่งและดิฉันคิดว่ามันมีส่วนช่วยได้มากทีเดียว' เธอบอก
เธอบอกอีกว่าเมื่อเธอพบกับทอมเป็นครั้งแรก เขาเป็นชาวอเมริกันและมีกิจการส่วนตัว เธอไม่มีปัญหาอะไรเลยในการเข้าใจและพูดกับเขา มันเป็นเรื่องของรักแรกพบ
'ฉันชอบฟังเสียงของเขาเพื่อนของฉันบอกว่าทอมเป็นอเมริกันแท้ๆ พวกเขาเพียงแต่สงสัยว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ยังไม่แต่งงาน' เธอหัวเราะ
ในระหว่างที่รอวีซ่าของเธอก่อนที่ทอมจะมารับเธอไปอเมริกา คัทรียามีความกังวลมาก 'มันเป็นช่วงเวลาที่ดิฉันไม่ได้คุยกับทอมสองสามวัน
และฉันก็เริ่มที่จะคิดโน่น คิดนี่ และมีคำถามต่างๆมากมายแต่เมื่อฉันได้พูดกับเขาทุกอย่างมันก็คลี่คลายและดีเหมือนเดิม ฉันรู้สึกดีขึ้น'
ภรรยาชาวไทยในอเมริกา
คัทรียาช็อคกับความแตกต่างเมื่อเธอไปถึงอเมริกา 'ฉันเคยเห็นอเมริกาในทีวีมาก่อนแต่เมื่อฉันมาถึงค่ายฟอร์ทเวิร์ธและเมืองออสติน มันดูเหมือนกับ
ไปถึงอีกโลกหนึ่ง มันร้อนเหมือนในเมืองไทยแต่แห้งแล้งมากและเสียงต่างๆก็ไม่เหมือนกัน ทุกอย่างมันเป็นประกายและเรียบร้อยมาก' สำหรับคัทรียาชาวอเมริกันมีความแตกต่างกันเช่นกัน
'ฉันคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนผู้หญิงในหนังอวกาศ และเมื่อฉันไปที่บ้านของทอมมันสวยและใหญ่มาก เขาไม่ได้บอกฉันว่าเรารวยมาก!' คัทรียาบอกว่าเวลานั้นเป็น
เวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต
'ฉันร้องไห้เมื่อฉันได้เจอกับแม่ของทอม เธอใจดีกับฉันมาก ฉันโชคดีมากๆและคิดถึงแม่และพี่ชายของฉันในประเทศไทยมันมีความรู้สึกมากมายในใจของฉัน'
ภรรยาชาวไทยสร้างความสำเร็จในชีวิตที่อเมริกา
ตอนนี้คัทรียาได้ใช้ชีวิตในฝันของเธอแต่เธอก็รับรู้ถึงความท้าทายที่กำลังรออยู่ 'หลังจากนี้ฉันต้องเผชิญกับความท้าทายในการที่จะสร้างชีวิตที่ดีในอเมริกา มันง่ายที่จะดูแล
บ้านสวยๆแต่ฉันก็อยากจะช่วยให้มากที่สุด'
คัทรียาพูดกับสามีของเธอและเกี่ยวกับเรื่องเงินด้วย 'เราพูดในระหว่างดื่มกาแฟด้วยกันและมันก็ดีมาก ทอมเป็นคนที่จัดการเรื่องเงินได้ดีมากและฉันเองก็เป็น
นักบัญชีอยู่แล้วดังนั้นที่นี่ฉันสามารถเป็นประโยชน์กับเขาด้วยเช่นกัน หลังจากเดือนหรือสองเดือนไปแล้วฉันก็รู้สึกว่ามันเป็นเวลาที่ฉันต้องหางานทำ และฉันก็ต้องแปลกใจที่มันไม่ยากเลย ทอมกลัวนิดหน่อยแต่มัน
ก็มีปัญหาที่ฉันไปไหนมาไหนไม่ได้เพราะขับรถไม่เป็น ฉันจึงต้องเรียนรู้ ฉันได้งานกับบริษัทใหญ่ในเมืองออสตินและที่นั่นฉันก็ได้พบกับความประหลาดใจ'
คัทรียากำลังจะค้นพบว่าชาวอเมริกันทำงานกันอย่างไร
วัฒนธรรมอเมริกันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบช็อคภรรยาชาวไทย
คัทรียาประหลาดใจมากและกลัวกับการทำงานที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบของสำนักงานในอเมริกา 'ฉันรู้สึกช็อคที่ทุกสิ่งทุกอย่างช่างรวดเร็วในอเมริกา ฉันเป็นพนักงานที่ดีมากในกรุงเทพฯแต่
ในอเมริกาเมื่อเริ่มงานใหม่ฉันทำงานช้ามากและไม่มั่นใจอะไรเลย ฉันโชคดีที่มีทอมและเพื่อนดีหลายคนช่วยฉันบวกกับประสบการณ์ที่มีจากกรุงเทพซึ่งฉันได้เป็น
หัวหน้าทีม'
คัทรียายอมรับว่ามีบางวันในเดือนแรกของการทำงานของเธอในอเมริกาที่เธอรู้สึกว่าเธอต้องลาออกหรือไม่ก็ต้องถูกไล่ออก แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ได้ปรับตัวและ
ได้รับการสอนงานโดยสามีชาวอเมริกันของเธอ 'ฉันได้พบกับคนใหม่ๆและบางคนที่เสียงดังและไม่สุภาพเลยแต่จริงๆแล้วมันก็ต้องเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องทำความเข้าใจ บาง
คืนฉันบอกทอมว่าฉันคงไม่สามารถทำงานในอเมริการได้และฉันก็จะเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟังและเขาก็ช่วยให้ฉันได้เข้าใจทุกอย่าง จากนั้นก็มีเรื่องประหลาดใจที่มีคนดีกับฉันมากมายและ
มีเพื่อนดีๆหลายคน'
ตั้งแต่นั้นคัทรียาได้รับการเลื่อนตำแหน่งและได้กลายมาเป็นทีมงานที่มีค่าของบริษัท 'ฉันไม่เคยขาดงานและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากมายทางด้านคอมพิวเตอร์' เธอบอก
'ฉันอยู่อเมริกามาเกือบห้าปีแล้ว ฉันได้เลื่อนตำแหน่ง และเราก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยและรู้สึกโชคดีมาก'
ภรรยาไทยที่กลายมาเป็นคุณแม่ชาวอเมริกัน
ทุกวันนี้คัทรียาได้กลายเป็นชาวอเมริกันที่ประสบความสำเร็จและมีสามีกับลูกชายอีกหนึ่งคน ประสบการณ์ของเธอในอเมริกาเป็นในด้านบวกเกือบตลอดเวลา มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อเธอ
ตกเป็นเป้าหมายของการถูกทำร้ายแต่มันก็เป็นไปในทางอ้อม: 'ฉันกำลังจะสอบใบขับขี่่แต่ไม่ได้ยิน สามีของดิฉันเป็นคนได้ยิน' เธอบอกว่าสามีของเธอบางครั้ง
ได้รับการมองแบบไม่พอใจเมื่อพวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา 'ฉันประหลาดใจมากที่ฉันสามารถหาเพื่อนได้มากมายที่นี่และคนที่ต้องการช่วยฉันก็มีมาก'
คัทรียาไม่มีแผนที่จะกลับไปประเทศไทยตอนนี้: 'สิ่งที่สำคัญที่สุดของดิฉันก็คือครอบครัวของดิฉันในอเมริกานี่ ทอมและลูกชาย บางครั้งฉันเป็นห่วงคุณแม่ของฉันในประเทศไทย
แต่เธอก็สบายดี ฉันไม่รู้ว่าตัวเองและทอมจะย้ายกลับไปอยู่ในประเทศไทยเมื่อเราอายุมากแล้วแต่ฉันก็ยังไม่จำเป็นต้งคิดถึงเรื่องนี้อีกนาน ตอนนี้ฉันมีชีวิตที่ดีและฉันเป็น
ผู้หยิงชาวอเมริกันที่กำลังอยู่ในความฝัน' เธอหัวเราะ
ตอนนี้มีคนไทยประมาณมากกว่า 250,000 คนอาศัยอยู่ในอเมริกา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและก็มีจำนวนมากที่มาที่อเมริกาเหมือนอย่างกรณีของ
คัทรียาซึ่งเป็นภรรยาชาวไทยที่แต่งงานกับชาวอเมริกัน แม้ว่าคนไทยส่วนมากจะอยู่ในแคลิฟอร์เนีย แต่อย่างน้อยคลื่นของผู้หญิงไทยก็กระจายอยู่ทั่วไปในสหรัฐฯ